เลือกเครื่องมือที่ถูกต้องในกล่องเครื่องมือแห่งประสิทธิภาพของคุณ: ครีเอทีน

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2020

เลือกเครื่องมือที่ถูกต้องในกล่องเครื่องมือแห่งประสิทธิภาพของคุณ: ครีเอทีน

ในปี 1993 พอล คีเอติง เป็นนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย และบิล คลินตันเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ทั้งโลกกำลังดูข่าวตึกเวิร์ลเทรด เซนเตอร์ในนิวยอร์กถูกโจมตี (ครั้งแรก) ผู้ชมแทงนักเทนนิสมืออาชีพและนักวิ่งระยะสั้นอาชีพถูกสั่งห้ามแข่งขันตลอดชีวิต ในปี 1993 ยังเป็นปีที่เปลี่ยนแปลงโภชนาการของวงการกีฬาและนักเพาะกายไปตลอดกาล มันคือปีที่อาหารเสริมครีเอทีนในเชิงพาณิชย์ออกสู่ท้องตลาด และมันคือการค้นพบสูงสุด เป็นอาหารเสริมในฝัน มีราคาแพงและไม่ธรรมดาเลยสำหรับการขาย ขวดขนาด 150 กรัม (สำหรับ 30 วัน) ในราคามากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ และคุณจะต้องเปลี่ยนแผนมื้ออาหาร การออกกำลังกาย งาน โรงเรียน ชีวิตในสังคม การนอนหลับของคุณไปอย่างสิ้นเชิง โดยพื้นฐานคือการใช้ชีวิตของคุณ “อย่างเหมาะสม” คุณจะต้อง “รับประทาน” 5 กรัม 1 หน่วยบริโภค ทุกๆ วันเป็นเวลา 10 วัน เราดูนาฬิกาตลอดเวลารอคอยอย่างกังวลถึงช้อนต่อไปของผงสีขาวสุดศักดิ์สิทธิ์นี้ คุณจะรับประทานคาเฟอีนไม่ได้เลย เพราะเชื่อว่าจะมาต่อต้านครีเอทีน เราเดินไปรอบๆ อยู่หลายสัปดาห์ด้วยความปวดหัว เพราะหยุดนิสัยดื่มกาแฟทุกวันอย่างกระทันหัน เราหมกมุ่นกับการชั่งน้ำหนักตัวเองรอว่าน้ำหนักใหม่สักกรัมหนึ่งจะปรากฎขึ้นอย่างที่เขาสัญญาเอาไว้ และทุกๆ การออกกำลังกายรู้สึกเหมือนครั้งแรกของเราอีกครั้ง จากการที่เรารอคอยความแข็งแกร่งที่จะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก รอคอยให้มันเกิดขึ้นจริงเช่นเดียวกับที่ผู้ทดสอบรายงานในนิตยสารเพาะกายทั้งหมด ที่เราอ่านอย่างคร่ำเคร่างระหว่างพักจากการสควอทและเบนช์เพรส

และครีเอทีนออกสู่ท้องตลาดอย่างรวดเร็วขนาดไหน ก็ดูเหมือนว่าจะจางหายไปในความมืดเร็วเท่านั้น เช่นเดียวกับการจางหายไปสควอทแร็กของยิมในปัจจุบันไปสู่การเปลี่ยนสำหรับการฮาล์ฟ สควอท, และพีค็อกสแตนซ์บนโบซูบอลแทน ด้วยมาตรวัดที่แตกต่างกัน 14 แบบของยางยืดออกกำลังกายที่พันอยู่รอบตัวคุณจนดูเหมือนเป็นมัมมี่สีรุ้ง การออกกำลังกายประจำวันโดยอินฟลูเอนเซอร์เกือบดังบางคนในโซเชียลมีเดีย ที่อ้างว่าพวกเขามีปัจจัยสำคัญในการจะได้มาซึ่งรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ

เช่นนั้นอะไรทำให้ครีเอทีนร่วงลงสู่ก้นกล่องเครื่องมือแห่งประสิทธิภาพ ตรงข้ามกับในตอนแรกที่ดูเหมือนเป็นเครื่องมือแรกที่เราพิจารณา เอาล่ะ มาดูที่ความเชื่อบางส่วนที่เรามักได้ยินคนพูดเกี่ยวกับครีเอทีนกัน... “ครีเอทีนน่ากลัว ทำในห้องทดลองเถื่อนที่ไหนไม่รู้ที่ไม่ได้คุณภาพ” “ฉันไม่ใช่นักเพาะกาย จะต้องการครีเอทีนไปทำไม” “ครีเอทีนทำให้ผู้หญิงล่ำ” “ครีเอทีนทำให้ฉันมีภาวะคั่งน้ำ” “ครีเอทีนทำให้เป็นตะคริว” “ครีเอทีนทำให้ร่างกายขาดน้ำ” ภาวะคั่งน้ำกับขาดน้ำเหรอ? หืม... สำหรับฉันที่จำได้คือบางอย่างเกี่ยวกับ “กฎแห่งการไม่แข่งขัน” ยังไงก็ตาม มาเริ่มกันตั้งแต่ต้น

ครีเอทีนถูกสร้างในร่างกายและพบได้ในอาหารหลากหลายแหล่งที่เรารับประทานเป็นส่วนหนึ่งของโภชนาการที่สมดุล ร่างกายเราสร้างครีเอทีนประมาณวันละ 1 กรัมต่อวันจากกรดอะมิโน อาร์จีนนี ไกลซีนและเมไธโอนีน กระบวนการเริ่มในไตและจบลงที่ตับ ร่างกายใช้กรดอะมิโนทั้ง 3 ชนิดเพื่อสังเคราะห์ครีเอทีนขึ้น ซึ่งจากนั้นจะถูกเก็บไว้ในโครงกระดูกยึดกล้ามเนื้อในรูปครีเอทีน ฟอสเฟต และใช้เพื่อเป็นพลังงาน และหากเรารับประทานอาหารอย่างสมดุลและไม่ได้มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดอะไรในการรับประทานอาหาร เราสามารถรับประทานเพิ่มมากกว่า 1 กรัมหรือมากกว่านั้นต่อวัน จากแหล่งต่างๆ เช่น สัตว์ปีก ปลา หมูและเนื้อวัว หนึ่งหน่วยบริโภคทั่วๆ ไปของไก่หรือเนื้อวัวประกอบด้วยครีเอทีนประมาณ 200 กรัม ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติสามารถบริโภคจากแหล่งโปรตีนที่หลากหลายได้ตลอดทั้งวันเพื่อให้ได้รับปริมาณกรดอะมิโนที่แนะนำที่ร่างกายต้องการเพื่อสร้างครีเอทีน อาร์จีนีน พบได้ในถั่วลิสง วอลนัต มะพร้าว ถั่วเหลือง ถั่วลูกไก่ และข้าวโอ๊ต ไกลซีนพบได้ในผักโขม ถั่วเหลืองและเมล็ดงา เมไธโอนีนพบได้ในถั่วบราซิล ข้าวโอ๊ต และเมล็ดทานตะวัน

ก่อนจะทำความเข้าใจกับครีเอทีน ซึ่งเป็นหัวข้อการศึกษาที่ตีพิมพ์กว่า 300 ครั้ง และมากกว่า 100 ครั้งเป็นการศึกษามนุษย์ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าการผลิตพลังงานในร่างกาย ทุกๆ เซลล์ต้องการพลังงานเพื่อทำงาน เซลล์กล้ามเนื้อต้องการพลังงานเพื่อการหดตัว พลังงานนี้อยู่ในรูปแบบของโมเลกุลที่เรียกว่า ATP (อะดีโนซีน ไตรฟอสเฟต) พลังงานจะผลิตเมื่อหนึ่งในกลุ่มฟอสเฟตถูกเอาออกจากโมเลกุล ATP เมื่อหนึ่งในกลุ่มฟอสเฟตถูกเอาออกไป จะเหลืออยู่สองกลุ่ม ซึ่งจะถูกเรียกว่า ADP (อะดีโนซีน ไดฟอสเฟต) เป็นกระบวนการ “รีไซเคิล” นี้ต้องการพลังงานและฟอสเฟตกลุ่มที่สามมาทดแทน

นี่นำครีเอทีนกลับมาให้เรา เมื่อเราบริโภคครีเอทีนร่างกายจะเปลี่ยนครีเอทีน (เมื่อเป็นอาหารเสริมคือครีเอทีน โมโนไฮเดรต เป็นตัวที่เข้าถึงอย่างแพร่หลายที่สุด) ไปยังครีเอทีนฟอสเฟต ครีเอทีนฟอสเฟตจะมอบกลุ่มฟอสเฟตของมันให้กับ ADP ซึ่งสร้าง ATP

แล้วทั้งหมดนี้หมายความว่ายังไง? ครีเอทีน โมโนไฮเดรตในปริมาณมาตรฐาน 3-5 กรัมต่อวัน มีผลตามต้องการเช่นเดียวกับการกิน ซึ่งอยู่ในรูปของการรับประมาณครีเอทีน 5 กรัม (4 ครั้งต่อวัน) เพื่อให้บรรลุความอิ่มตัวของครีเอทีนในกล้ามเนื้อได้ค่อนข้างเร็ว ครีเอทีนที่เก็บในกล้ามเนื้อสามารถรักษาโดยการบริโภคครีเอทีน 3 กรัมต่อวันอย่างสม่ำเสมอ

การรับประทานครีเอทีนวันละ 5 กรัม (ทั้งวันที่ออกกำลังกายและวันที่ไม่ได้ออก) ในช่วงเวลาหนึ่ง (อย่างน้อย 1 เดือน) รวมกับการออกกำลังกายที่ใช้ความต้านทานสูง ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพและการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อ เมื่อรับประทานไปสักระยะพร้อมกับการออกกำลังกายความต้านทานสูงแล้ว ครีเอทีนสามารถช่วยส่งเสริมนักกีฬาที่ต้องการความแข็งแกร่ง พละกำลังและการระเบิดจังหวะได้

สิ่งสุดท้ายบางประการเกี่ยวกับครีเอทีนที่ต้องพิจารณาคืออะไร? ขณะที่ครีเอทีนกำลังทำงานอย่างต่อเนื่องและไม่ชัดเจน การรับประทานครีเอทีนไม่ใช่สิ่งจำเป็น เมื่อระดับครีเอทีนในกล้ามเนื้อถึงสูงสุด ระดับจะไม่มีการเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญแล้ว ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องบริโภคน้ำตาลหรืออย่างอื่นในปริมาณมากเพื่อ “เพิ่มปริมาณการดูดซึม” และเวลาของการบริโภคในแต่ละวันก็มีความสำคัญน้อยเช่นกัน เมื่อเทียบกับความสม่ำเสมอ ดังนั้นคุณสามารถรับประทานครีเอทีนเมื่อไหร่ก็ได้ตามสะดวก แนะนำให้รับประทานทั้งในวันที่ออกกำลังกายและวันที่ไม่ได้ออกกำลังกาย อีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้ที่สะดวกสำหรับคุณ และคุณไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงคาเฟอีน ครีเอทีนสามารถเติมลงไปในอะไรก็ตามที่คุณชอบรับประทานหรือดื่ม

ดังนั้นถ้าเป้าหมายของคุณเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง พละกำลังและจังหวะระเบิด ทำไมถึงจะไม่ลองใช้เครื่องมือนี้ล่ะ?